เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ได้จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะและพิธีถวายบังคมเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยมีนายตุลย์ ไตรโสรัส เอกอัครราชทูตฯ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ ทีมประเทศไทย และภาคเอกชน พร้อมคู่สมรส เข้าร่วม

เอกอัครราชทูตฯ ได้ถวายพานพุ่มสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กล่าวถวายราชสดุดีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และนำผู้เข้าร่วมพิธีฯ ถวายบังคมพร้อมกัน เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

       นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ธ.ค. สถาบัน Philippine Institute of Volcanology and Seismology (PHIVOLCS) ได้ยกเลิกประกาศแจ้งเตือนคลื่นสึนามิ ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าอาจเกิดขึ้นในพื้นที่เกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ และพื้นที่บางส่วนของปาเลา และทางการฟิลิปปินส์ได้อพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว

        อย่างไรก็ดี PHOVOLCS ขอให้ประชาชนในพื้นที่ยังคงใช้ความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมี aftershocks เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ โดยพบว่าเกิดขึ้นแล้วมากกว่า 600 ครั้ง

        ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดสนามกีฬาของ Mindanao State University เมือง Marawi จังหวัด Lanao Del Sur เกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ธันวาคม 2566 ระหว่างพิธีมิซซาของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย และบาดเจ็บ 43 รายนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ขอเรียนว่า ขณะนี้ ทางการฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างสอบสวนสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยข้อมูลจากรายงานข่าวท้องถิ่นระบุในเบื้องต้นว่า เป็นการใช้ระเบิดมือ และสำนักงานตำรวจประจำภูมิภาค Bangsamoro Autonomous Region in Muslim Mindanao (BARMM) สันนิษฐานว่า อาจเชื่อมโยงกับการที่กองทัพฟิลิปปินส์ได้ปฏิบัติการสังหารกลุ่มก่อการร้าย Dawlah Islamiyah-Philippines จำนวน 11 คน ใน จ. Maguindanao del Sur เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้จัดกองตำรวจและทหารดูแลความปลอดภัยบริเวณมหาวิทยาลัยฯ และสั่งหยุดการเรียนการสอนจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง

        ในการนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ขอให้ประชาชนชาวไทยใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงดังกล่าว และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด ในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ Hotline (+๖๓) ๙๑๗ ๘๐๖ ๓๙๗๗ และ (+๖๓) ๙๑๗ ๘๐๕ ๘๘๖๓