ด้วยทางการฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตือนภัยระดับ 3 (จาก 5 ระดับ) บริเวณภูเขาไฟมายอน (Mayon Volcano) ในเมืองเลกาสปี (Legazpi) จังหวัดอัลเบย์ (Albay) ทางตอนใต้ของเกาะลูซอน (อยู่ห่างจากรุงมะนิลาประมาณ 450 กิโลเมตร) ซึ่งเกิดการปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 2561 และอาจเกิดการปะทุรุนแรงจนเกิดการระเบิดได้ในไม่ช้า ทั้งนี้ อาจมีการไหลของลาวา ดินถล่ม หินร่วงหล่น และเถ้าจากภูเขาไฟ ซึ่งทางการฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตือนภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยขณะนี้ได้เริ่มมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว รวมทั้งเตือนภัยที่จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบินโดยรอบ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา จึงขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่บริเวณรอบภูเขาไฟมายอนจนกว่าทางการฟิลิปปินส์จะยกเลิกการประกาศเตือนภัย และขอให้ติดตามการประกาศเตือนภัยและข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิดต่อไป

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา
    14 ม.ค. 2561 22.00 น.

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา และนางมนต์ทิพย์ อุปัติศฤงค์ ภริยา พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ และหัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดและมอบรูปปั้นช้างแก่เมืองบาเกียว โดยมีนายสุรศักดิ์ ไกรวิทย์ชัยเจริญ Country Director บริษัทเอสซีจี ฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยผู้บริหารของบริษัทในเครือเอสซีจีในฟิลิปปินส์ และผู้แทนองค์กรวัฒนธรรมไทย-ฟิลิปปินส์ (PTCO) เข้าร่วม ณ สวนพฤกษศาสตร์นานาชาติ เมืองบาเกียว สถานที่สำหรับการเรียนรู้ด้านพรรณไม้ และจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของเมือง

การเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้รับการต้อนรับโดยทหารกองเกียรติยศของ Philipine Military Academy (PMA) ตลอดจนนาย Mauricio G. Domogan นายกเทศมนตรีเมืองบาเกียว นาง Pressey Cansio ประธาน PTCO และผู้บริหารสำนักงานการท่องเที่ยวเมืองบาเกียว

โครงการสร้างรูปปั้นช้างนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับความร่วมมือจากบริษัทเอสซีจี โดยการดำเนินการของบริษัท Mariwasa Siam Ceramics สนับสนุนปูนซีเมนต์ และส่งช่างปั้นจากไทยมาดำเนินการสร้างรูปปั้นช้างในรูปแบบครอบครัวช้าง จำนวน 6 ตัว ขนาดเท่าตัวช้างจริง

การสร้างสัญลักษณ์ของไทยไว้ในสถานที่ ซึ่งมีความสำคัญของเมือง ทั้งในแง่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งสถานที่แห่งการเรียนรู้ของเมือง ได้รับความสนใจและประทับใจจากนักท่องเที่ยว ชาวเมืองบาเกียวและสื่อมวลชนของฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการ โดยได้แสดงความชื่นชมและประทับใจต่อไมตรีจิตของไทย อันนับเป็นโครงการที่ช่วยการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่จะครบรอบ 70 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2562 ให้แน่นเเฟ้นมากยิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ ช่างปั้นของไทยได้ทำหน้าที่เสมือนทูตสันถวไมตรี มีประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือช่างของไทยในการสร้างรูปปั้น และร่วมตั้งชื่อรูปปั้นช้าง นอกจากนี้ ยังถือเป็นโครงการนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ถึงศักยภาพของบริษัทไทยที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์กว่า 20 ปี และส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทและการดำเนินกิจกรรมด้าน CSR อีกด้วย