Menu

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากิจการธุรกิจรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing: BPO) ในฟิลิปปินส์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการให้บริการ Call Centre ซึ่งเติบโตขึ้นในอัตราร้อยละ 40 ระหว่างปี 2549-2550 โดยในปี 2550 ธุรกิจดังกล่าว สร้างรายได้กว่า 4,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างงานกว่า 300,000 อัตรา และในปี 2551-2552 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนฟิลิปปินส์ได้อนุมัติคำขอรับการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือในการลงทุนของบริษัท BPO ต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

- จุดแข็งของฟิลิปปินส์ในธุรกิจ BPO คือ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร อนึ่ง ปัจจุบัน ธุรกิจ BPO ในฟิลิปปินส์ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพในการให้บริการ โดยจากการสำรวจในปี 2552 เจ้าของกิจการ BPO ในฟิลิปปินส์ สามารถจ้างงานผู้สมัครงานจำนวน 7 ? 8 คน จากผู้สมัครงาน 100 คน

เมื่อปี 2550 สมาคม National Outsourcing Association ของสหราชอาณาจักรได้จัดให้ฟิลิปปินส์เป็น The Offshoring Destinationa of the Year ประจำปี 2550 และเมื่อ มกราคม 2551 International Data Corporation (IDC) ได้จัดอับดับให้มะนิลาเป็น? Business Process Outsourcing Destination ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (รองจากเมืองบังกาลอร์ อินเดีย)

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทเอกชนในสหรัฐฯ เป็นลูกค้าหลักของธุรกิจ BPO ของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์กำลังพยายามขยายกลุ่มลูกค้าไปยังประเทศในภูมิภาคยุโรปและออสเตรเลีย โดยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ตั้งเป้าหมายจะขยายการเจริญเติบโตของธุรกิจ BPO ให้ได้ร้อยละ 40? (จากมูลค่าในปี 2550) ภายในปี 2553

ผู้ประกอบการธุรกิจ offshoring and outsourcing (O&O) ของฟิลิปปินส์ (BPO? เป็นส่วนหนึ่งของ O&O) ได้รวมตัวกันภายใต้ Business Processing Association of the Philippines (BPA/P) โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของธุรกิจ O&O ในฟิลิปปินส์ โดยใน 20 ? 21 ตุลาคม 2552 BPA/P จะจัดการประชุม International Outsourcing Summit : Global Market Leaders Addressing Global Issues เพื่อหารือปัญหาต่างๆ ของธุรกิจ BPOโดยเฉพาะ อย่างยิ่งผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก นอกจากนี้ BPA/P ยังได้ตั้งเป้าหมายให้ฟิลิปปินส์สามารถครอบครองส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจ BPO ของโลกให้ได้ร้อยละ 10 ในปี 2553 ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจ BPO ของฟิลิปปินส์มีมูลค่ากว่า 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะสร้างงานจำนวนกว่า 900,000 อัตรา

การส่งเสริมตลาดธุรกิจ Call Center ของไทย ในฟิลิปปินส์

  • เมื่อ 18 ก.ย. 52 สมาชิสมาคมซอฟท์แวร์แห่งประเทศไทยได้นำผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท เข้าร่วมงาน? Secrets of Asia?s Fastest Growing Companies ณ กรุงมะนิลา เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนในระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในธุรกิจ Call Center ในฟิลิปปินส์
  • ผู้ประกอบการไทยที่มาร่วมงานดำเนินธุรกิจในสาขาต่างๆ อาทิ Call Center การโรงแรม ธนาคารและการเงิน

?